วาระแห่งชาติ ปอดเพื่อชาวไทยทุกคน นุ่น ศิรพันธ์ ร่วมแชร์มักกะสันสวนสร้างสรรค์

  • 11 พ.ค. 2563
  • 1334
หางาน,สมัครงาน,งาน,วาระแห่งชาติ ปอดเพื่อชาวไทยทุกคน นุ่น ศิรพันธ์ ร่วมแชร์มักกะสันสวนสร้างสรรค์

สิ่งแวดล้อมดีๆ สังคมดีๆ ไม่มีขายตามห้างหรือตลาดนัด! อยากได้! อยากมี! ต้องร่วมด้วยช่วยกันดูแลจัดการ มักกะสันสวนสร้างสรรค์ เป็นอีกงานที่น่าสนใจยิ่ง เครือข่ายมักกะสัน Makkasan และหลายๆ องค์กรได้ร่วมกันจัดงาน ปาร์ค ทอล์ก Park Talk ที่หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร รวมพลคนดังจากหลายสาขาอาชีพทั้ง นักวิชาการ ,ศิลปิน ,สถาปนิก ,ดารา มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อประกาศดังๆ คืนพื้นที่สีเขียวให้กับคนเมือง ระดมความคิดเพื่อต้องการให้รัฐบาลบริหารจัดการสวนมักกะสัน ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างสร้างสรรค์อย่างแท้จริง

ประเด็นสำคัญยิ่ง ที่ภาคประชาชนต้องจับตา คอยตรวจสอบกันให้ดีๆ ประเด็นรัฐบาลจะพัฒนาพื้นที่กว่า 750 ไร่ ของสวนมักกะสันไปในทิศทางไหน ซึ่งหลายคนเป็นห่วงกับการพัฒนาที่มุ่งเน้นแต่ธุรกิจมากเกินไป แน่นอนว่าเครือข่ายมักกะสัน และประชาชนส่วนใหญ่ ต้องการให้คงพื้นที่สีเขียวของเดิมเอาไว้ เพื่อให้เป็นปอดอันบริสุทธิ์สำหรับชาวไทยทุกคน

งานปาร์ค ทอล์ก มักกะสันสวนสร้างสรรค์ คนดังในแวดวงบันเทิง ก็มาร่วมแชร์ความคิดดีๆ กันด้วย อาทิ ตุลย์ ไวฑูทรเกียรติ นักร้องวง อพาร์ตเมนต์คุณป้า ,นรเศรษฐ หมัดคง ดีเจซี๊ด ,ก้อง ทรงกลด บางยี่ขัน บรรณาธิการบริหารนิตยสารคุณภาพ a day ,คุณอดัม หม่อมเจ้าเฉลิมชาตรี ยุคล ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังจาก ภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ จะพาไปพูดคุยกับนางเอกฝีมือน่าปลื้มปริ่ม นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา ที่กำลังจะมีละครใหม่เรื่อง ผู้หญิงคนนั้นชื่อบุญรอด งานนี้นุ่นมาด้วยใจ ค่าตัว 0 บาท ตั้งใจมาปลุกความคิดเรื่องสวนมักกะสัน "กฏหมายเดิมของประเทศเรา ถ้าจะมีการใช้พื้นที่ในการทำธุรกิจ ต้องแบ่ง 30% เป็นพื้นที่สีเขียวอยู่แล้ว นี่คือข้อมูลเดิมจากฎหมายที่เรามีมา ดังนั้นสิ่งที่ทางเราต้องการคือ การเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่าง"

อยากจะให้คงพื้นที่สีเขียว ของสวนมักกะสันเอาไว้มากกว่านี้ ไม่ใช่จัดแบ่งมาแค่ 30%? "ก็คงอย่างนั้นแหละคะ กรุงเทพมันก็พื้นที่ใหญ่คนเยอะ แต่พื้นที่สีเขียวมันมีแค่นี้มันคงไม่พอ" พื้นที่สีเขียวเดิมๆ ของสวนมักกะสันกว่า 750 ไร่ นุ่นอยากจะให้เก็บไว้ทั้งหมด ให้เป็นสวนสาธารณะเพื่อที่ทุกคนได้มาใช้ประโยชน์? "มันตอบยากนะ ว่าจะกี่ร้อยไร่ดี เพราะจริงๆ ถ้าพื้นที่สีเขียวเยอะ แต่ถ้าคนที่อยู่ในกรุงเทพ ไม่ได้สนใจเรื่องการลดมลภาวะที่เกิดขึ้น ต่อให้มีพื้นที่สีเขียวมากกว่า 700 ไร่ หรือ 1,000 ไร่ มันก็ไม่พอหรอก เพราะเราใช้รถแล้วปล่อยควันเสีย เครื่องปรับอากาศปล่อยความร้อนเข้าสู่อากาศ คือมันต้องไปด้วยกันคะ พื้นที่สีเขียวมันก็ต้องมากขึ้น คนที่ทำให้โลกร้อน ก็ต้องช่วยๆ กันให้มากขึ้น"

ตอนนี้ดูเหมือนว่าภาคประชาชน ก็เริ่มจะตื่นตัวมากขึ้นแล้วนะ กับเรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องการรักษ์ธรรมชาติ? "การมาพูดในครั้งนี้ ทำให้คนตื่นตัวมากยิ่งขึ้นนะ อย่างบางคนไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่า มักกะสันคืออะไร อยู่ที่ไหน (ยิ้ม)" หลายคนก็เพิ่งมารู้ว่า เรามีสวนมักกะสันพื้นที่สีเขียวที่ดีๆ อยู่แล้ว? "ใช่ๆ มันทำให้เกิดการรับรู้ในสังคมมากขึ้น และจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในความคิด คนกรุงส่วนมากก็จะรู้จัก สวนรถไฟ ,สวนเบญฯ คือเขารู้อยู่แล้วแหละว่า การมีพื้นที่สีเขียว ข้อดีคือมีวันหยุดแล้วได้ไปพักผ่อน ได้เห็นสีเขียวบ้าง รู้สึกเย็นบ้าง ตอนนี้เขาก็จะรู้สึกว่า เอ๊ะ มีอีกก็ดีนะ คือตอนนี้คนยังไม่ค่อยรับรู้เท่าไหร่ กิจกรรมนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมในการกระตุ้นคะ"

พื้นที่สีเขียวของสวนมักกะสัน ที่กำลังเป็นอีกหนึ่งโปรเจ็กต์ยักษ์ของรัฐบาล นุ่นได้ศึกษามานานแค่ไหนแล้ว? "เรื่องนี้เหรอคะ นุ่นก็เหมือนคนทั่วไป ที่ไม่ค่อยรู้อะไรมาก ที่มาพูดวันนี้ นุ่นเป็นตัวแทนของคนทั่วไปที่ย้ายมาอยู่กรุงเทพ ส่วนตัวคิดว่าพื้นที่สีเขียวมันดีนะ ปีแรกๆ ที่ย้ายมาอยู่กรุงเทพ มีความรู้สึกว่าจะไปอยู่ที่ไหนที่ไม่ใช่ห้าง (ยิ้ม) คือไปไหนคนก็เยอะเราอึดอัด พอว่างปุ๊บก็จะไปสวนรถไฟ เรารู้สึกว่า เออ มีพื้นที่สงบๆ ให้เราได้ผ่อนคลาย บางวันทำงานเครียดก็ไปนั่งเล่น อยู่นานถึงสามทุ่มค่อยกลับ

"นานแล้วที่เราไม่ได้ถอดรองเท้าแล้วเดินเหยียบหญ้า คือคนต่างจังหวัดก็จะหาได้ง่าย มีสนามหญ้าหน้าบ้านอยู่แล้ว แต่คนอยู่กรุงเทพยิ่งอยู่คอนโด ยิ่งหายากที่จะไปถอดรองเท้าแล้วไปเหยียบหญ้า ส่วนตัวคิดว่าพื้นที่สีเขียว ที่เป็นสวนสาธารณะมันดีกับร่างกายดีกับจิตใจ" คิดว่ารัฐบาลชุดนี้ จะฟังเสียงประชาชนมากน้อยแค่ไหน ในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้มากขึ้น ในการคงพื้นที่เดิมๆ ของสวนมักกสันเอาไว้? "เอ่อ...นุ่นว่า (ยิ้ม) ไม่คอมเม้นท์ดีกว่า ว่าจะฟังหรือไม่ฟังเสียง แต่สิ่งที่เราพูดไปก็คือหนึ่งความเห็นหนึ่งเสียงที่มาจากความรู้สึกจริงๆ นุ่นว่าตรงนี้แหละที่เราต้องมาให้ค่ากัน ก็ไม่รู้ว่าทางนั้นจะเห็นค่าแค่ไหน"

เคยไปที่สวนมักกะสันกี่ครั้งแล้ว? "ยังไม่ได้ไปคะ โอ๊ย นุ่นก็เหมือนคนกรุงเทพแหละคะ คือนุ่นเป็นคนส่วนใหญ่ ที่ไม่รู้จักกว่ามักกะสันอยู่ตรงไหน (ยิ้ม) แต่นุ่นแค่คิดว่าพื้นที่สีเขียวมันมีประโยชน์ ถ้ามีเพิ่มอีกก็ดี นุ่นแค่มาแชร์ว่าพื้นที่สีเขียวดีนะ เป็นตัวแทนจากเด็กต่างจังหวัดที่มาอยู่กรุงเทพ นุ่นเชื่อว่าธรรมชาติเป็นตัวขัดเกลาอ่ะ ก็แค่อยากจะแชร์มันน่าจะดี" นุ่นก็เดินทางบ่อยเนอะ หลายประเทศก็จะมีพื้นที่สีเขียวเพื่อส่วนรวมกันเยอะ? "(รีบตอบ) ใช่คะ ก็ไปมาหลายประเทศแล้ว อย่างนิวยอร์ก สหรัฐ ที่เซ็นทรัลปาร์ค สวนสาธารณะก็ใหญ่ มันเห็นได้ชัดเลยว่า คนมันได้ใช้ชีวิตอ่ะ อิตาลีก็มี หลายประเทศมีกันหมด คือทุกที่ก็มีพื้นที่สีเขียว สวนสาธาณะที่ใหญ่ๆ กันนะคะ"

มีประเด็นพัฒนาพื้นที่มักกะสัน เตรียมจะทำเป็นคอมเพล็กธุรกิจใหญ่โต ต้องการรายได้มากๆ โอกาสที่จะทำให้เป็นสวนสาธารณะน่าจะน้อยนะ? "มันต้องอยู่บนความจริง คือทุกอย่างมันปรับจูนกันได้ มันสามารถมีธุรกิจสีเขียวที่สร้างรายได้ ยกตัวอย่าง หลายปีที่แล้วตอนที่นุ่นไปเมืองปักกิ่ง จีน จะมีพื้นที่หนึ่งเรียกว่า 798  อาร์ต ดิสทริค Art District นุ่นไปอยู่ที่นั่นได้ทั้งวันอ่ะ เมื่อก่อนเป็นโรงไฟฟ้าใหญ่มากๆ พอวันหนึ่งไม่ทำโรงไฟฟ้าแล้ว เป็นโรงไฟฟ้าร้าง ศิลปินก็เข้าไปทำงาน แต่ละคนก็จะมีโกดังในการทำอาร์ต ผลงานชิ้นหนึ่งก็ไม่ได้ถูก เป็นหลักหลายแสน หรือมีการปลูกต้นไม้ในบริเวณนั้นมากขึ้น นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาดู กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำเงิน คนเข้าไปดูก็เกิดการจับจ่ายใช้สอย นักท่องเที่ยวอยากมา ไม่ใช่ว่างานศิลปะของที่นั่นมันเก๋มากขนาดนั้น แต่นักท่องเที่ยวมาที่นี้ เพราะมันดึงดูดอ่ะ เพราะแต่เดิมเป็นโรงไฟฟ้า แล้วคุณนำมาดัดแปลงให้ศิลปินมาทำงาน

"ถามว่ามันคือธุรกิจมั้ย มันก็คือธุรกิจ แต่มันคือธุรกิจที่ไปด้วยกันได้ คุณไม่จำเป็นต้องรื้อทำลายบางอย่าง คุณไม่ต้องทำลายพื้นที่สีเขียว แล้วสร้างอะไรขึ้นมาเพื่อหารายได้ มันอาจจะผสมผสานการหารายได้ที่มีอยู่ แล้วเพิ่มสีเขียวเข้าไปได้ คือทุกคนต้องใช้เงิน เราไม่ได้ต่อต้านว่า ฉันจะเอาพื้นที่สีเขียว ไม่เอาเงิน แต่ว่ามันจะฉลาดกว่ามั้ย ถ้ามันจะเป็นพื้นที่สีเขียวไปด้วย และเป็นธุรกิจสีเขียวไปด้วย   

"ถามว่าต้นไม้ในสวนสาธารณะบ้านเรา มันได้เติบโตอย่างธรรมชาติหรือเปล่า มันคือการประดิษฐ์อ่ะ หญ้า ต้นไม้ ก็ต้องมีการตัดทุก 15 วัน เด็กไม่ได้เห็นการเติบโตของต้นไม้อย่างจริงจัง เราไม่ได้เห็นต้นไม้ที่เติบโตอย่างอิสระเสรี ถามว่าเราอยากจะให้เด็กรุ่นต่อไปของเรา รู้จักธรรมชาติจากขวดแก้ว รู้จักธรรมชาติจากกูเกิ้ล หรือว่าอยากจะให้เด็กมาเจอของจริง มาสัมผัสมามาจับธรรมชาติของจริง".

หางานตามสาขาอาชีพ

JOBBKK.COM © สงวนลิขสิทธิ์ All Right Reserved

jobbkk มีเพียงเว็บเดียวเท่านั้น ไม่มีเว็บเครือข่าย โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้าง และหากผู้ใดแอบอ้าง ไม่ว่าทาง Email, โทรศัพท์, SMS หรือทางใดก็ตาม จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด DBD

Top